คดีละเมิด

ว่าความ
บริษัท เจ ที ลีเกิ้ล จำกัด
JT Legal Consult
ปรึกษาปัญหากฎหมาย ฟรี
+66 2094 0889
+66 2094 0890
จ. - ศ.
เวลาทำการ 08:30 น. - 17.30 น.
Slider

คดีละเมิด


ละเมิด  คือ การกระทำใด ๆของบุคคลหรือการกระทำของบุคคลอันก่อให้เกิดความเสียหายต่อบุคคลอื่น ซึ่งอาจเป็นการกระทำของตนเองหรืออาจเป็นการกระทำของบุคคลอื่น โดยผู้ที่ได้รับความเสียหายจากการกระทำเช่นว่านั้นชอบที่จะได้รับการเยียวยา โดยการเรียกร้องค่าสินไหมทดแทนหรือเรียกร้องให้ผู้กระทำละเมิดปฏิบัติหรือละเว้นปฏิบัติในลักษณะอื่น ๆ  เพื่อเป็นการเยียวยาความเสียหายที่เกิดขึ้นต่อผู้ถูกกระทำละเมิดได้

ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 420 บัญญัติว่า “ผู้ใดจงใจหรือประมาทเลินเล่อ ทำต่อบุคคลอื่น โดยผิดกฎหมายให้เขาเสียหายถึงแก่ชีวิตก็ดี แก่ร่างกายก็ดี อนามัยก็ดี เสรีภาพก็ดี ทรัพย์สินหรือสิทธิอย่างหนึ่งอย่างใดก็ดี ท่านว่าผู้นั้นทำละเมิดจำต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนเพื่อการนั้น” จากบทบัญญัติดังกล่าวองค์ประกอบของการกระทำที่เป็นละเมิด จึงมีดังนี้

 

1.กระทำโดยจงใจหรือประมาทเลินเล่อ

2.กระทำโดยผิดกฎหมาย

3.การกระทำก่อให้เกิดความเสียหายแก่บุคคลอื่น

4.ความเสียหายเป็นผลมาจากการกระทำดังกล่าวนั้น

 

ส่วนค่าสินไหมทดแทนอันเกิดจากการละเมิด ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 438 บัญญัติว่า “ค่าสินไหมทดแทนจะพึงใช้โดยสถานใดเพียงใดนั้นให้ศาลวินิจฉัยตามควรแก่พฤติการณ์และความร้ายแรงแห่งละเมิด

อนึ่งค่าสินไหมทดแทนนั้นได้แก่การคืนทรัพย์สินอันผู้เสียหายต้องเสียไปเพราะละเมิดหรือใช้ราคาทรัพย์สินนั้นรวมทั้งค่าเสียหายอันจะพึงบังคับให้ใช้เพื่อความเสียหายอย่างใด ๆ อันได้ก่อขึ้นนั้นด้วย” ซึ่งปกติแล้วการชดใช้หรือชำระค่าสินไหมทดแทน ได้แก่ การคืนทรัพย์สินที่ผู้เสียหายต้องสูญเสียไปเพราะการละเมิด หรือการให้ชดใช้ราคาทรัพย์สินรวมทั้งค่าเสียหายที่เกิดขึ้นจากการกระทำละเมิด"

 

การฟ้องร้องดำเนินคดี                

 

การฟ้องร้องดำเนินคดีละเมิดนั้น ตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ มาตรา 448 บัญญัติว่า “สิทธิเรียกร้องค่าเสียหายอันเกิดแต่มูลละเมิดนั้น ท่านว่าขาดอายุความเมื่อพ้นปีหนึ่งนับแต่วันที่ผู้ต้องเสียหายรู้ถึงการละเมิดและรู้ตัวผู้จะพึงต้องใช้ค่าสินไหมทดแทนหรือเมื่อพ้นสิบปีนับแต่วันทำละเมิด แต่ถ้าเรียกร้องค่าเสียหายในมูลอันเป็นความผิดมีโทษตามกฎหมายลักษณะอาญาและมีกำหนดอายุความทางอาญายาวกว่าที่กล่าวมานั้นไซร้ ท่านให้เอาอายุความที่ยาวกว่านั้นมาบังคับ”

ดังนั้นหากประสงค์จะฟ้องร้องดำเนินคดีกับผู้ที่กระทำละเมิด จะต้องกระทำภายในกำหนดระยะเวลา 1 ปีนับแต่วันที่รู้ถึงเหตุแห่งการกระทำอันเป็นการละเมิดและรู้ถึงตัวผู้ที่กระทำละเมิด โดยเอกสารหลักฐานที่ต้องใช้ประกอบการฟ้องร้องดำเนินคดีนั้น ได้แก่ สำเนารายงานประจำวันเกี่ยวกับคดี (กรณีละเมิด,รถชน) , บันทึกเจรจาค่าเสียหาย (ถ้ามี) , เอกสารเกี่ยวกับค่าเสียหายหรือค่าสินไหมทดแทน เช่น ใบเสร็จค่ารักษาพยาบาล ใบเสร็จค่าซ่อมแซมทรัพย์สินที่เสียหาย เป็นต้น

สอบถามเพิ่มเติม